มีถิ่นกําเนิดในประเทศแถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งธรรมชาติในสภาพพืชป่า มีข้อสันนิษฐานว่า ขมิ้นชันเป็นพืชปลูกที่เกิดกระบวนการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและมีโครโมโซม 3 ชุด ซึ่งเป็นหมัน มีการสืบทอดพันธุ์กันต่อมา โดยวิธีการคัดเลือกพันธุ์และปลูกขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ปัจจุบันมีเขตการกระจายพันธุ์ปลูกทั่วไปในประเทศที่มีอากาศร้อน หรือร้อนชื้นทั่วโลก ได้แก่ กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มาดากาสกา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย รวมถึงบางประเทศในเขตร้อนชื้นของทวีปแอฟริกา
ประโยชน์และสรรพคุณขมิ้นชัน
- ช่วยเจริญอาหาร
- ยาบำรุงธาตุ
- ช่วยฟอกเลือด
- แก้ท้องอืดเฟ้อ แน่น จุกเสียด
- ช่วยลดน้ำหนัก
- แก้ปวดประจำเดือน
- แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- อาการดีซ่าน
- แก้อาการวิงเวียน
- แก้หวัด
- แก้อาการชัก
- ช่วยลดไข้
- ขับปัสสาวะ
- รักษาอาการท้องมาน
- แก้ไข้ผอมแห้ง
- แก้เสมหะ
- แก้โลหิตเป็นพิษ
- แก้โลหิตออกทางทวารหนักและเบา
- แก้ตกเลือด
- แก้อาการตาบวม
- แก้ปวดฟันเหงือกบวม
- มีฤทธิ์ระงับเชื้อ
- ช่วยต้านวัณโรค
- ป้องกันโรคหนองใน
- แก้ท้องเสีย
- แก้บิด
- แก้หิว
- รักษามะเร็งลาม
- ช่วยลดอาการฟกช้ำบวม ปวดไหล่และแขน บวมช้ำและปวดบวม
- แก้ปวดข้อ
- ใช้สมานแผลสดและแผลถลอก
- ใช้ผสมยานวดคลายเส้นแก้เคล็ดขัดยอก
- แก้น้ำกัดเท้า
- แก้ชันนะตุ
- แก้กลากเกลื้อน
- แก้โรคผิวหนังผื่นคัน
- ใช้สมานแผล
- รักษาฝี แผลพุพอง
- ลดอาการแพ้ อักเสบจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ใช้ห้ามเลือด
- รักษาผิว
- ช่วยบำรุงผิว
- ช่วยลดหน้าท้องลายหลังคลอดบุตร
- ช่วยลดกลิ่นปาก
ฤทธิ์ทางเภสัชของขมิ้นชัน
• มีการวิจัยฤทธิ์ของขมิ้นชันต่อการต้านไวรัส พบสารเคอร์คูมิน และเคอร์คูมินโบรอนคอมเพล็กซ์คลอไรด์ สามารถยับยั้งเอนไซม์เอช ไอ วี โปรทีเอส 1 และ 2 (HIV-1 protease,HIV-2 protease) และพบสารเคอร์คูมินอยด์สามารถยับยั้งเอนไซม์เอช ไอ วี อินทิเกรส 1 (HIV-1 integrase) เอนไซน์โทโพไอโซเมอเรส 1 และ 2 (topoisomerase I,II)
• มีการวิจัยฤทธิ์ของขมิ้นชันกับหนูที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ด้วยการให้หนูกินน้ำมันขมิ้นชัน 25% และ 5% พบว่า ขมิ้นชันสามารถยังยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็งได้ ด้วยการลดจำนวนเซลล์ และขนาดของเซลล์มะเร็ง
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
• ไม่ควรรับประทานสารสกัดที่ได้จากเหง้าขมิ้นชันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย งุ่นง่าน กระสับกระส่าย ถ่ายเป็นเลือด อาเจียน และสตรีที่มีครรภ์ในระยะแรกๆ ไม่ควรรับประทานเด็ดขาดเพราะอาจทำให้แท้งบุตรได้
• การใช้ขมิ้นเป็นยารักษาโรคกระเพาะ ถ้าใช้ขนาดสูงเกินไป จะทำให้เกิดแผลในกระเพาะ
• คนไข้บางคนอาจมีอาการแพ้ขมิ้น โดยมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ให้หยุดยา
• ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีการอุดตันของท่อน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดี และห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์
• ควรระมัดระวังในการใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากเสริมฤทธิ์กัน อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้า และเลือดไหลหยุดยากได้