สมุนไพรฉัตรทอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ซูขุย (จีนกลาง), จวกขุ่ยฮวย (จีน-แต้จิ๋ว) เป็นต้น
ลักษณะของต้นฉัตรทอง
ต้นฉัตรทอง จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีลำต้นตั้งตรงและมีความสูงของต้นประมาณ 2.5 เมตร ลำต้นเป็นสีเขียวและตามลำต้นมีขนอ่อนขึ้นปกคลุมอยู่ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย จัดเป็นไม้กลางแจ้งที่ชอบแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน[
สรรพคุณของฉัตรทอง
รากและดอกใช้เป็นยาจับพิษร้อนในร่างกาย ทำให้เลือดเย็น (ราก, ดอก) รากและเมล็ดเป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย (ราก, เมล็ด) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น (ดอก) ช่วยแก้โลหิตกำเดา (ราก, ดอก) ช่วยทำให้ชุ่มชื่น (ดอก) รากสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาและป้องกันโรคเยื่อจมูกอักเสบหรือเยื่อภายในร่างกายอักเสบได้ (ราก) หากมีไข้หรือเป็นไข้จับสั่น ก็ให้ใช้ดอกสดที่ผึ่งแห้งแล้ว นำมาบดเป็นผงผสมกับน้ำรับประทานเป็นยาแก้ไข้ ส่วนรากและเมล็ดในตำราได้ระบุไว้ว่ามีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ ลดไข้เช่นเดียวกับดอก (ดอก, ราก, เมล็ด) ช่วยแก้อาการไอเป็นเลือด (ราก, ดอก) ช่วยรักษาโรคหัด ด้วยการใช้ดอกที่บานเต็มที่แล้ว (สดหรือแห้งก็ได้) นำมาต้มกินหรือบดเป็นผงกิน (ดอก) ช่วยรักษาอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือตกเลือด ด้วยการนำรากสดประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้รากสดประมาณ 60 กรัม นำมาคั้นเอาแต่น้ำผสมกับเหล้ารับประทานเป็นยาก็ได้ หรือหากมีอาการตกเลือดก็สามารถใช้ดอกนำมาต้มรับประทานเป็นยาได้เช่นกัน (ดอก, ราก)
ประโยชน์ของฉัตรทอง
หากใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นหรือเป็นฝ้า ก็ให้ใช้ดอกสดนำมาบดให้ละเอียดผสมกับรังผึ้งสด ใช้ทาหน้าก่อนนอนทุกคืน[1] ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตามรั้วตามสวนทั่วไป